พวกเราทั้งหลายอยากจะพูดคุยกับคนที่เราไว้เนื้อเชื่อใจได้และที่เราสามารถพูดคุยอย่างเปิดอก ในการสำแดงความคิดและสำแดงความรู้สึกแก่คนที่สามารถเข้าใจเรา เขามองข้ามความไม่สมประกอบของเรา มองข้ามคำพูดอันโง่เขลาบางอย่างไป ไม่ใช่พูดทีไรถูกสวนกลับมาทุกที
นักแต่งนวนิยายชื่อดังในศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษ Dinah Maria Mulock Craik กล่าวว่า “ข้าพเจ้ามีความรู้สึกอุ่นใจ รู้สึกสบายใจ และเบาใจอย่างสุดซึ้งที่รู้ว่า ผู้ที่เราพูดด้วยไม่ได้ชั่งน้ำหนักความคิดของเรา ไม่ได้ตำหนิติเตียนและจับผิดถ้อยคำของเรา ไม่ขัดคอ หรือโกรธเรา ยินดีรับฟังคำพูดที่ออกมายังไงก็ยังงั้น รับฟังทั้งเมล็ดและแกลบปนกันผู้รับฟังฝัดร่อนเก็บส่วนที่มีคุณค่าไว้ด้วยความเมตตา มีใจกว้างมากพอที่จะเป่าแกลบทิ้งไป”
เปาโลสอนให้พูดความจริงด้วยใจรัก เอเฟโซ 4:15 การพูดความจริงแบบโผงผาง หรือพูดแบบขวานผ่าซากไม่ได้หมายความว่าเราทำหน้าที่รับผิดชอบในการสื่อความที่ดี ต้องคิดถึงและเป็นห่วงเป็นใยว่าผู้ฟังจะรู้สึกอย่างไรกับเนื้อหาที่เราพูดออกไป เราหวังดีหรือเราต้องการสนองอีโก้ของตัวเราเอง โปรดจำไว้ว่าเนื้อหาที่เป็นคำพูดแค่ 7 % ส่วนที่เหลือเป็นน้ำเสียงภาษาร่างกาย, มือ,ตา,ใบหน้า การสื่อความที่ดีต้องให้ความเคารพซึ่งกันเละกันไม่ใช่ถือวิสาสะ อย่าเห็นแก่ตัว ให้อิสระแก่ผู้อื่นในการสำแดงความรู้สึก และเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ใช่พูดฝ่ายเดียว เคารพความคิดเห็นที่แตกต่างจากเรา อย่าบีบบังคับให้คู่ชีวิตต้องคิดต้องพูดเหมือนอย่างเรา อย่าคิดที่จะเปลี่ยนเขาด้วยคำพูด หัวใจของการสื่อความที่ดีโฟกัสอยู่ที่ความปรารถนาดีไม่ใช่เนื้อหามากมายเนืองนองไร้สาระ ไม่มีความจริงใจ
