วันที่ 8 พ.ย. 1987 ชาวไอริช ชื่อ Gordon Wilson พาลูกสาว Marie ไปยืนดูการสวนสนามที่เมือง Ennisllen, ไอแลนด์เหนือ ขณะที่ Wilson กับลูกสาวอายุ 20 ยืนอยู่ใกล้กับกำแพง รอการสวนสนามของทหารและตำรวจ ผ่านมาทางที่ทั้งสองยืนอยู่ มีการระเบิดซึ่งพวกก่อการร้าย IRA ซุกซ่อนไว้หลังกำแพง ทำให้กำแพงทับคนตายไปหลายคน แรงระเบิดทำให้กำแพงทับร่างของ Wilson กับลูกสาวหัวไหล่ และแขนของ Wilson บาดเจ็บ ขยับตัวไม่ได้ Wilson รู้สึกตัวว่ามีมือมาสัมผัสกับแขนของเขา เป็นลูกสาวของเขานั่นเอง “พ่อ นี่คือพ่อใช่ไหม?” เธอถาม “ใช่ลูก” พ่อตอบ Wilson ได้ยินเสียงคนหลายคนร้องกรี๊ด “ลูกเป็นยังไง?” Wilson ถามลูกสาว เธอตอบว่า “ลูกไม่เป็นไร” แต่แล้วเธอก็ร้องโอดครวญเช่นเดียวกัน พ่อยึดมือลูกสาวไว้และถามลูกทุครั้ง “ลูกเป็นยังไง?”ทุกครั้งลูกตอบว่า “ลูกไม่เป็นอะไร”
ในที่สุด Marie พูดกับพ่อ “หนูรักพ่อมาก” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายของเธอ อีก 4 ชั่วโมงต่อมาเธอเสียชีวิตในโรงพยาบาลเพราะกระดูกสันหลังหัก สมองกระทบกระเทือนอย่างแรง เย็นวันนั้นนักข่าว BBC ได้สัมภาษณ์ Gordon Wilson หลังจากที่เขาได้บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น นักข่าวถามว่า “คุณรู้สึกยังไงกับคนที่วางระเบิด?” Wilson ตอบว่า “ผมไม่ถือโทษโกรธเขา” “ใจขมขื่นจะไม่ทำให้ชีวิตลูกสาว
ของผมคืนชีพได้ ผมจะอธิษฐานคืนนี้และทุกคืนให้พระเจ้ายกโทษให้เขา”
หลายเดือนต่อมา Wilson ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา นักข่าวถามเขาอีกว่า “คุณยกโทษให้เขาได้ยังไง” Wilson ตอบว่า “ผมเจ็บปวดที่ได้เสียชีวิตลูกสาวไป แต่ผมไม่ได้โกรธ คำพูดของ Marie ลูกสาวผมประโยคสุดท้ายว่า “หนูรักพ่อ” ประโยคนี้แหละทำให้ผมพิชิตความโกรธได้ พระเจ้าประทานกำลังให้ผมมีพลังที่จะยกโทษได้”
ความรักมีอานุภาพมาก และทำสิ่งมหัศจรรย์ได้ ประโยคสุดท้ายแห่งความรักของ Marie ทำให้ Gordon Wilson พิชิตความโกรธได้ โดยความรักพระเจ้าจะช่วยเราพิชิตความโกรธและรักผู้อื่นได้ไม่ว่าเขาจะทำกับเราอย่างไรก็ตาม “อย่าให้ความชั่วมีชัยแก่ตัว แต่จงระงับความชั่วด้วยความดี” (โรม 12:21)