ค.จ. แต่ละแห่งไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ประกอบด้วยสมาชิกที่หลากหลายทุกรูปแบบ เป็นหน้าที่รับผิดชอบของนักเทศน์ในการใช้ความรู้ทุกด้านป้อนให้แก่สมาชิก เพื่อสมาชิกจะได้แข็งแรง นักเทศน์บางคนต้องการเอาใจสมาชิก
ไม่ต้องการนำบทเรียนที่กระทบกระเทือนใดๆ ทั้งสิ้น นักเทศน์เป็นแค่ริมฝีปากของพระเจ้า เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าในการนำข่าวสารจากพระคำของพระเจ้าตีแผ่เพื่อเขาจะได้เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า เขาจะได้เป็นคริสเตียนแข็งแรง นักเทศน์ที่ทำหน้าที่เทศนาจากพระคัมภีร์ ไม่ใช่ให้ความบันเทิง อัครสาวกเปาโลสอนติโมเธียวนักเทศน์หนุ่มดังนี้ว่า “ท่านจงประกาศพระคำ จงหมั่นกระทำการอยู่ทั้งเวลาที่มีโอกาส และเวลาที่ขาดโอกาส จงว่ากล่าว ห้ามปราม และตักเตือนคนด้วยความเพียรพยายามทุกอย่างในคำสั่งสอน 3 เพราะว่าจะมีเวลาหนึ่งที่เขาจะไม่รับคำสอนอันให้เกิดปกติสุข แต่เขาจะรวบรวมครูไว้มากๆ เพื่อจะให้ยอนหูของเขาให้สมกับความอยากของเขา” (2ติโมเธียว 4:2-3)
โดยธรรมชาติคนชอบฟังสิ่งที่ไม่ต้องกระทบอะไรมากนัก พระเยซูสอนว่าถ้าจะเป็นผู้ฟังที่ดีต้องประพฤติตามถ้าฟังเฉยๆโดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อสถานะภาพความเชื่อของเราก็เหมือนที่พระเยซูตรัสว่า“ทุกคนที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและไม่ประพฤติตามเราจะเปรียบเขาเช่นกับคนโง่คนหนึ่งที่สร้างเรือนของตนไว้บนทราย 27 ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยวลมก็พัดปะทะเรือนนั้นเรือนนั้นก็พังลงความพินาศของเรือนนั้นก็ใหญ่ยิ่ง"” (มัดธาย 7:26-27)
ยะซายาผู้พยากรณ์สมัยโบราณก็ประสบกับผู้ฟังที่ต้องการฟังสิ่งที่เขาต้องการอยากจะฟัง แต่ไม่ต้องการฟังสิ่งที่เขาควรจะฟัง“เขาพูดกับผู้ทำนายว่า "อย่าทำนายให้เราฟังเลย" และพูดกับผู้พยากรณ์ว่า "อย่าได้พยากรณ์ให้เราฟังอย่างตรงไปตรงมาเลย จงพูดคำหวานให้เราฟังเถอะจงพยากรณ์เยินยอล่อลวงให้เราฟังเถอะจงหลีกไปเสียทางอื่นจงแยกทางออกไปเสียเถอะอย่าเอาเรื่องขององค์บริสุทธิ์แห่งชนชาติยิศราเอลมากวนใจเราอีกเลย” (ยะซายา 30:10-11) ค.จ. ต้องการฟังบทเรียนหัวข้อต่างๆเหมือนการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ อาหารบางอย่างรสชาติอาจไม่อร่อยแต่มีประโยชน์
* เทศนาเรื่องความรัก 1กรธ 13
* เทศนาเรื่องพระคุณ อฟซ 2:8-9
* เทศนาเรื่องความเชื่อ ยกบ 2:24-26
* เทศนาเรื่องบัพติศมา 1ปต 3:21
* เทศนาเรื่องค.จ. แท้ กก 20:28
* เทศนาเรื่องนิกาย 1กรธ 1:10-15
* เทศนาเรื่องพระเจ้า ยนซ 1:1
* เทศนาเรื่องพระเยซู ยฮ 3:16
* เทศนาเรื่องลัทธิศาสนา มธ 15:9
* เทศนาเรื่องวิทยาศาสตร์ 1ธซก 5:21
คำเทศนาที่สมดุลไม่ได้หมายความว่ามีทั้งแนวลบและแนวบวก แต่หมายความว่าใช้พระคำของพระเจ้าเป็นเนื้อหาสำคัญ ,ไม่ใช่คำสอนของมนุษย์ ,ไม่ใช่ความคิดเห็นของมนุษย์ พระเยซูกล่าวว่า “คนเช่นนี้นับถือเราด้วยริมฝีปากแต่ใจของเขาห่างไกลจากเรา 9 เขาปฏิบัติเราโดยหาประโยชน์มิได้ด้วยเอาคำของมนุษย์สอนว่าเป็นพระบัญญัติ"” (มัดธาย 15:8-9) เปาโลสั่งสอนติโมเธียวนักเทศน์หนุ่มว่าว่า “เมื่อข้าพเจ้าได้ไปยังมณฑลมากะโดเนีย ข้าพเจ้าได้เตือนท่านให้คอยอยู่ในเมืองเอเฟโซ เพื่อท่านจะได้กำชับบางคนไม่ให้เขาสอนแปลกออกไป 4 ทั้งไม่ให้เขาใส่ใจในเรื่องนิยายต่างๆ และเรื่องวงศ์ตระกูลอันไม่รู้จักจบ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดปัญหามากกว่าให้เป็นไปตามแบบแผนของพระเจ้าซึ่งเกี่ยวกับความเชื่อ” (1ติโมเธียว 1:3-4)
เปโตรกล่าวว่า “ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดจะกล่าวสั่งสอนก็ให้กล่าวตามพระโอวาทของพระเจ้า ถ้าคนใดรับการปรนนิบัติก็ให้ปรนนิบัติตามกำลังซึ่งพระเจ้าทรงโปรดประทานนั้น เพื่อพระเจ้าจะได้เกียรติยศในทุกสิ่งโดยพระเยซูคริสต์ สง่าราศีและเดชานุภาพ จงมีแก่พระองค์นั้นสืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน” (1เปโตร 4:11) โยฮันสอนว่า “ถ้าคนใดมาหาท่านและไม่นำพระโอวาทนี้มาด้วย อย่ารับเขาไว้ในเรือน และอย่าเอออวยกับเขา 11 เพราะว่าผู้ที่เอออวยกับเขาก็เข้าส่วนในการชั่วของเขานั้น” (2โยฮัน ข้อ 10 )
พระคำของพระเจ้าเป็นพระโอวาท เป็นคำสั่งสอนสำหรับมนุษย์ปุถุชนที่เป็นคนบาป พระคำของพระเจ้าไม่ใช่เป็นเนื้อหาเพื่อความบันเทิงแต่ประกอบด้วยคำสั่งสอน ,คำตักเตือน, คำตำหนิติเตียน , การประณามความบาป , การหนุนใจ , ความเร้าใจ , คำห้ามปราม เรียกร้องให้กลับใจเสียใหม่ ฯลฯ
“12 เพราะว่าพระคำของพระเจ้าประกอบด้วยชีวิต และด้วยฤทธิ์เดช และคมกว่าดาบสองคม และแทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และอาจวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจ 13 สิ่งใดที่ไม่ได้ปรากฏแก่พระองค์ไม่มี แต่สรรพสิ่งปรากฏแจ้งต่อพระเนตรของพระองค์ผู้ซึ่งเราต้องให้การนั้น” (เฮ็บราย 4:12-13)
ผู้รับใช้ของพระเจ้ามีหน้าที่ในการป้อนอาหารฝ่ายวิญญาณจิตต์ให้ครบถ้วนหลากหลาย
*เทศนาจากพระคัมภีร์เดิม โรม 15:4
* เทศนาจากพระคัมภีร์ใหม่ 2ตมธ 3:16-17
*เทศนาชีวประวัติของคน ฮร 13:18
*เทศนาเรื่องวีระบุรุษความเชื่อ ฮร 11:1-40
* เทศนาเรื่องชีวิตครอบครัว อฟซ 6:1-4
*เทศนาเรื่องการนมัสการ ยฮ 4:24
*เทศนาเรื่องพิธีระลึก 1กรธ 11:19-20
*เทศนาเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ กก 2:38
*เทศนาเรื่อง ค.จ.ของพระคริสต์ รม 16:16
*เทศนาเรื่องคุณสมบัติของผู้ปกครอง และมัคนายก 1ตมธ 3:1-13
* เทศนาเรื่องการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยฮ 17:20-21