ในคริสตจักรที่โกรินโธมีบางคนที่คิดว่าตนเป็นผู้อยู่ในฝ่ายวิญญาณจิตต์เพราะเขาพูดภาษาแปลกๆได้และพยากรณ์ได้ แต่เปาโลบอกว่าความคิดเช่นนั้นเป็นความคิดที่ผิด (1โกรินโธ14:37) ปัจจุบันนี้ก็เช่นเดียวกันมีผู้ที่ต้องการให้คริสตจักรมีการเปลี่ยนแปลงออกนอกคำสอนของพระคัมภีร์ พวกเหล่านี้คิดว่าอธิษฐานยาวๆท่ามกลางความมืดที่มีแสงเทียนดูแล้วขลังดีเหมือนศาสนาพุทธหรือโรมันคาธอลิก การเติบโตทางฝ่ายวิญญาณจิตต์เป็นปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิตคริสเตียน ที่จะเข้าใจความหมายของผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณจิตต์ เราก็ต้องพิจารณาว่าพระเจ้าให้ความหมาย“ฝ่ายวิญญาณจิตต์”ว่าอย่างไร
1. หมายถึงผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า และเชื่อว่าพระองค์เป็นผู้ประทานบำเหน์จให้แก่ผู้ที่แสวงหาพระองค์ (เฮ็บราย11:6) เหมือนโนฮาที่ดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้าทุกวัน (เยเนซิศ6:9) พระเจ้าเป็นพระบิดา เขารักพระเจ้าและ เชื่อฟังพระเจ้า
2. หมายถึงผู้ที่เข้าส่วนในความตายกับพระเยซู (ฆะลาเตีย 3:26-27 )และปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระองค์(มัดธาย16:24,โยฮัน14:15)
3. หมายถึงผู้ที่มีความเชื่อในพระคำของพระเจ้า ใจของเขาบรรจุด้วยถ้อยคำที่มาจากพระคำของพระเจ้าเขาเชื่อและพยายามที่จะประพฤติตามคำสั่งสอนของพระคัมภีร์ ยืนขึ้นต่อสู้ และ ปกป้องความจริงของพระคัมภีร์ไม่มองข้าม ไม่ละเลยไม่เปลี่ยนแปลง
4. หมายถึงผู้สำแดงชีวิตด้วยการนมัสการ (1เปโตร2:5,เอเฟโซ 5:19)
5. หมายถึงชีวิตประจำวันของเขาเห็นชัดเจนว่ามีความประพฤติน่านับถือ ดำเนินตามพระวิญญาณ (ฆะลาเตีย 5:25) ใช้ชีวิตเป็นคนชอบธรรม (ติโต2:12-13)
6. หมายถึงผู้มีดวงวิญญาณที่สำแดงพระเยซูในสายตาของเพื่อนมนุษย์ ทั้งคนภายในคริสตจักร และ นอกคริสตจักร (ฆะลาเตีย 6:1, 10, มัดธาย 22:39,7:12)
7. หมายถึงผู้ที่มีผลพระวิญญาณในชีวิต ความรัก, ความยินดี,สันติสุข,ความอดกลั้นไว้นาน,ความปราณี, ความดี,ความสัตย์ซื่อ,ความอ่อนสุภาพ (ฆะลาเตีย 5:22)
นี่คือภาพของผู้ที่อยู่ในฝ่ายวิญญาณจิตต์ที่พระเจ้าวาดใว้ ผู้ที่ต้องการให้พระเจ้าพอพระทัยควรดำเนินชีวิตตามฝ่ายวิญญาณจิตต์ด้วยการตามรอยพระบาทของพระเยซู (1เปโตร 2:21)